อ่านละครย่อเรื่อง แววมยุรา

อ่านละครย่อเรื่อง แววมยุรา
ความรักที่รอคอยบทพิสูจน์ ของหญิงสาวผู้หยิ่งทรนง มากด้วยความจริงใจ
กับชายหนุ่ม ผู้มากด้วยทรัพย์สินเงินตรา ทว่าขาดความรัก รอยยิ้มและน้ำตา
บทพิสูจน์ความรัก ที่เรื่มจากความจริงใจ การหลอกลวง เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
นำไปสู่รักแท้ที่ปรารถนา

สยุมภูว์ ทศพล (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) นักธุรกิจหนุ่มหล่อผู้ลึกลับ เก็บเนื้อเก็บตัวสุดๆ จนไม่เคยมีภาพใบหน้าของตนออกสื่อใดๆ สยุมภูว์เพิ่งกลับมาเมืองไทย หลังจากที่ไม่ได้มาเหยียบแผ่นดินแม่เลยร่วม 15 ปี เขาและ เพิ่มพงษ์ (จาตุรงค์ มกจ๊ก) มือขวาข้างกาย รีบมาพบ นิติธร (พิศาล อัครเศรณี) ทนายประจำตัวของ สีหราช ทศพล พ่อของเขาที่เพิ่งเสียชีวิตไป เพื่อรับฟังพินัยกรรมซึ่งมีเนื้อความว่า พ่อของเขายกบ้านไม้หลังเก่าและเงินจำนวนหนึ่งให้กับนิติธร และยกกิจการของกลุ่มบริษัททศพลกรุ๊ปที่ใหญ่โต มูลค่ามหาศาลให้กับสยุมภูว์ พร้อมระบุว่าถ้าสยุมภูว์ไม่สามารถรับมรดกได้ ทศพลกรุ๊ปก็จะถูกยกให้นิติธรและทายาทเป็นผู้รับมรดกแทน ขณะที่จะขึ้นรถกลับมีชายชุดดำใส่หมวกกันน็อคมาด้อมๆ มองๆ ที่รถอย่างมีพิรุธ


คืนนั้น หลังมื้อค่ำ สยุมภูว์กับเพิ่มพงษ์เดินกลับมาที่รถซึ่งจอดไว้โดดเดี่ยวบริเวณที่ค่อนข้างเปลี่ยว ทันใดนั้น ก็เกิดระเบิดขึ้น จนรถไหม้วอดไปทั้งคัน เห็นชายชุดดำสวมหมวกกันน็อกซึ่งใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิด พยักหน้าพอใจที่งานสำเร็จลุล่วง ก่อนจะบิดมอเตอร์ไซค์หนีหายไป

แวว มยุรา (มารี เบรินเนอร์) ปรากฏตัวบนเวทีในงานแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์นำเข้าสุดหรูในโชว์รูม เธอคือพริตตี้ที่สวยเซ็กซี่และพูดพรีเซนต์รถยนต์ได้อย่างฉาดฉาน คล่องแคล่ว โดย คำรพ (เกริก ชิลเลอร์) เจ้าของบริษัทนำเข้ารถยนต์รุ่นนี้จ้างแววมาทำงานเป็นพริตตี้ของบริษัทตนในอัตราเงินเดือนสูง เพราะหลงรักแววจนมองไปถึงขั้นว่าเขาจะทำให้แววยอมเป็นภรรยาเขาให้ได้ หลังเพิ่งหย่าเมียมาเหงาเงิบได้หนึ่งปีเต็มๆ ขณะที่แววนั่งในรถ สาธยายถึงความไฮ-เทคของระบบปรับเบาะไฟฟ้าต่างๆ พอออกจากรถ ก็ปิดประตูหนีบเอาชายกระโปรงจนกระโปรงหลุด เหลือแต่กางเกงขาสั้นตัวจิ๋วที่ใส่ไว้ข้างใน สื่อมวลชนยิงแฟลชกันแปลบปลาบ คำรพแทบตาถลน

ภายในห้องแต่งตัวหลังเวทีนั้นเอง คำรพอดใจไม่ไหวลวนลามแววด้วยคำพูดและมือไม้ซุกซน จนแววสุดจะทนตบหน้าคำรพฉาดใหญ่ พอคำรพขู่ว่าจะไล่ออก แววเลยสวนว่า ไม่ต้องไล่ ฉันลาออกเอง แล้วแถมตีเข่าผ่าหมากให้อีกดอกก่อนจาก
แต่เมื่อกลับถึงบ้าน แววก็แทบช็อค เมื่อเห็นรถพยาบาลเปิดไซเรนจอดอยู่หน้าบ้าน แต่ก็กลายเป็นว่า มาลตี (นวลปรางค์ ตรีชิต) ผู้เป็นแม่ อุปาทานไปเอง แค่กินขนมเยอะจนแน่น ก็เรียกรถพยาบาลให้เสียตังค์ซะงั้น แถมยังทวงเงินค่าบิลต่างๆ ทั้งค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์ ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถฯลฯ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ แววคือผู้รับผิดชอบจ่ายบิลแต่เพียงผู้เดียว แววเริ่มจ๋อย

ความสะใจที่ได้ไล่ตอบโต้เจ้านายหัวงู กลายเป็นต้องสลด ซ้ำเติมอีกด้วยการที่ วัณณรี (ปชาบดี ตัณฑปุตตะ) น้องสาวร้องทวงค่าหน่วยกิตมหาวิทยาลัยเอกชนที่แพงระยับ แววมืดแปดด้านว่าจะไปหาเงินที่ไหน ก็ได้ยินเสียง โรส (ศรัณย์ธรณ์ ระสินานนท์) สาวใช้ขาเม้าท์ทำแก้วแตกไปหลายใบ ต้องเสียตังค์เพิ่มเข้าไปอีก แต่แววก็ไม่อยากให้แม่และน้องต้องกังวล เลยโกหกว่าตนยังทำงานกินเงินเดือนอยู่ที่เดิม แล้วค่อยมาปรับทุกข์กับ ชลธิชา (นุชนันทน์ อรัณยะนาค) เพื่อนซี้ที่เป็นเจ้าของร้านกาแฟ และ เริงใจ (หรรษา จึงวิวัฒน์วงศ์) ที่ชลธิชาดึงมาให้ช่วยดูแลพร้อมกับแบ่งหุ้นให้ สาวสวยทั้งสาม เป็นแก๊งค์เพื่อนซี้ที่รักกันมาตั้งแต่สมัย ม.ปลาย และคิดกระทั่งว่า ต่อให้อนาคตต้องมีสามี มีครอบครัวกันไป ก็จะไม่มีวันเลิกคบหากัน เริงใจผู้สดใสร่าเริงใจเหมือนชื่อแนะว่างานพีอาร์ งานพริตตี้ มีเยอะแยะ สวยระดับแวว อีกไม่กี่วันก็ได้งานใหม่ แววบ่นว่าไม่อยากทำงานที่ใช้รูปร่างหน้าตาหากินแล้ว เพราะเบื่อพวกหัวงู และคิดว่างานที่ใช้ความสวยมีแต่วันโรยราลงไป แต่งานที่ใช้ความสามารถต่างหากที่ยิ่งทำยิ่งเพิ่มขึ้น สำคัญที่สุดก็คือ เธออยากพิสูจน์ตัวเองว่าเธอก็มีดี มีความสามารถ มีมันสมอง ไม่ได้มีแต่รูปร่างหน้าตาอย่างที่ผู้คนมักจะปรามาสเธอ

ชายชุดดำสวมหมวกกันน็อค เดินขึงขังเข้ามาหา นิติภูมิ (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) ลูกชายคนเดียวของนิติธรที่มีปมเก็บกดมานาน เพราะพ่อทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการรับใช้คุณสีหราช และทศพลกรุ๊ป กระทั่งตอนที่แม่ของนิติภูมิป่วยหนัก พ่อก็ยังไม่มีเวลาให้ จนแม่ต้องจากไปก่อนเวลาอันควร หนำซ้ำพ่อยังพูดชอบเปรียบเทียบนิติภูมิที่เกเร ส่งไปที่ไหนก็เรียนไม่จบ กับสยุมภูว์ที่เรียนเก่ง และยังสามารถบริหารกิจการบริษัทในเครือทศพลกรุ๊ปที่สิงคโปร์จนประสบความสำเร็จน่าภาคภูมิใจ จนนิติภูมิรู้สึกจงเกลียดจงชังสยุมภูว์เข้าไส้ แม้จะไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลยก็ตาม ชายชุดดำเดินมาถึงก็ยื่นหนังสือพิมพ์ที่มีภาพข่าวซากรถยนต์ที่ไฟลุกท่วม นิติภูมิยิ้มพอใจ ชายชุดดำเปิดหมวกกันน็อคให้เห็นว่าเขาคือ ศักดา (ปิยะ วิมุกตายน) อดีตมือปืนรับจ้างที่หวนมารับงานของนิติภูมิ โดยก่อนหน้านี้ นิติภูมิแอบอ่านเอกสารพินัยกรรม และได้ทราบว่าถ้ากำจัดสยุมภูว์ซะกิจการทศพลกรุ๊ปทั้งหมดจะกลายเป็นของพ่อและของตน จึงจ้างวานศักดาให้ฆ่าสยุมภูว์ โดยให้สัญญากับศักดาว่า ทันทีที่ทศพลกรุ๊ปเป็นของพ่อและตน ก็จะจ่ายเงินตอบแทนศักดาให้อยู่สบายไปตลอดชาติ แต่นิติภูมิยังไม่ไว้ใจ เพราะในข่าวไม่ได้พูดถึงศพของสยุมภูว์ แม้ศักดาจะยืนยันว่าไม่รอดแน่นอน
เคาน์เตอร์รีเซฟชั่น เพิ่มพงษ์ขนกระเป๋า พาสยุมภูว์เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมหรู ทั้งสองมีร่องรอยผ้าปิดแผลตามแขนและใบหน้าคนละหลายจุด เพิ่มพงษ์บอกโชคดีที่เขาลืมกุญแจรถไว้ที่ร้านอาหาร เลยชวนสยุมภูว์เดินหันกลับก่อนจะถึงรถ เพิ่มพงษ์ชี้แจงสถานการณ์ว่า สยุมภูว์กำลังถูกตามฆ่า จึงควรจะหาเซฟเฮาส์ และอำพรางตัวซะ สยุมภูว์ถามเพิ่มพงษ์ว่าทำไมไม่แจ้งตำรวจ เพิ่มพงษ์บอกว่าแจ้งแล้ว เขาซี้กับนายตำรวจใหญ่ๆ หลายท่าน แต่เพื่อความไม่ประมาท ก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองด้วย

ที่ร้านขายต้นไม้และรับจัดสวน Secret garden สยุมภูว์งงว่าเพิ่มพงษ์พาตนมาที่นี่ทำไม เพิ่มพงษ์ชี้แจงว่า ร้านนี้เป็นของญาติห่างๆ ที่กำลังประกาศขาย ตนเลยซื้อไว้ซะเลย จะได้เป็นที่ให้พักผ่อนเพราะทั้งตนและสยุมภูว์ก็เป็นคนรักต้นไม้ และยังใช้บังหน้า เพื่อจะเป็นออฟฟิศ ที่จะเหมือนศูนย์บัญชาการ และบริหารกิจการทศพลกรุ๊ป จากร้านขายต้นไม้แห่งนี้ และยังเช่าบ้านไว้อีกหลัง เพื่อเป็นที่นอน และยังมีประโยชน์ในแง่ที่ว่า ถ้าเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจะได้ย้ายสลับที่อยู่ได้
ทั้งสองมาถึงบ้านหลังน่ารักน่าอยู่ เพิ่มพงษ์หันมาอีกที สยุมภูว์ก็เดินเข้าบ้านไปแล้ว เพิ่มพงษ์จึงตามเข้าไป แต่จริงๆ แล้ว สยุมภูว์เข้าผิดบ้าน เพราะบ้านที่รั้วติดกันก็คือบ้านของแววนั่นเอง แววเพิ่งอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าเช็ดตัวเปิดประตูห้องน้ำมาเจอสยุมภูว์ ถึงกับยืนตะลึงเพราะใบหน้าที่สวยถูกสเปคของแวว แต่ก็โดนปาทั้งขวดแชมพู สบู่ แปรงล้างห้องน้ำ เรียกว่าในห้องน้ำมีอะไร สยุมภูว์ก็โดนหมด สยุมภูว์พยายามอธิบายแต่แววโวยว่าเป็นพวกโรคจิตจะมาข่มขืน สยุมภูว์เห็นว่าแววไม่ฟังคำอธิบาย ก็หันหลังวิ่งออกมาหน้าบ้าน ขณะกำลังจะออกจากรั้ว ก็เจอหนุ่มมาดเท่จอดมอเตอร์ไซค์คันหรู ถอดหมวกกันน็อคออกมา เห็นว่าเป็น เอกรินทร์ (ภพธร สุนทรญาณกิจ) และเมื่อได้ยินแววที่ตามหลังมาร้องโวยวายให้ช่วย เอกรินทร์ก็เลยสวนหมัดเข้าเต็มๆ หน้าสยุมภูว์ทันที แววสวมเสื้อคลุมเสร็จจะวิ่งมาซ้ำ แต่เพิ่มพงษ์รีบมาขวางไว้ทัน ก่อนจะชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจกัน เมื่อถูกถามชื่อ สยุมภูว์เกือบหลุดปากบอกชื่อจริง แต่เพิ่มพงษ์สวนไปว่าชื่อจักร เพราะเห็นโมเดลจักรยานวางอยู่ ส่วนนามสกุลก็ใช้ของตน คือ กังวาลไกร โดยแนะนำว่าจักร กังวานไกร (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) เป็นลูกของพี่ชายของตน พร้อมแนะนำตัวเองว่าชื่อ น้าเพิ่ม กังวาลไกร
เอกรินทร์เป็นคนสุภาพ รีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ด้วยความรู้สึกผิด แต่จักรไม่ถือสาอะไร จับไม้จับมืออภัยให้กันไป

น้าเพิ่มผูกมิตรกับแววในฐานะเพื่อนบ้านรั้วติดกัน แต่คู่ของแววกับจักร กลับไม่ยอมปรองดองกัน จักรก็โวยว่าแววไม่ยอมขอโทษ เยาะว่าสมน้ำหน้า เพราะจักรเซ่อซ่า เฟอะฟะเข้ามาบ้านคนอื่นเอง ถ้ามีปืนคงโดนยิงไส้แตกไปแล้ว จนเอกรินทร์ต้องพยายามประนีประนอมให้ทุกฝ่ายปรองดองกัน ตามประสาชายหนุ่มที่นุ่มนวล และอบอุ่น เมื่อกลับมาในบ้าน สยุมภูว์โวยน้าเพิ่มว่าทำไมตั้งชื่อตนว่าจักรไม่ปรึกษากันบ้าง น้าเพิ่มชอบใจที่เห็นจักรทะเลาะกับแววเมื่อครู่ บอกว่าไม่เคยเห็นคุณสยุมภูว์เป็นแบบนี้ งั้นต่อไปนี้ คุณสยุมภูว์เป็นจักรแล้วก็ขอให้ทำตัวกวนๆ แบบนี้ให้ตลอดเลยแล้วกัน สยุมภูว์เซ็งๆ แต่ก็ต้องจำใจยอมรับว่าตนเป็น จักร กังวาลไกลไปซะ จะเดินเข้าห้องนอนพักผ่อน พอล้มตัวลงบนเตียงก็ต้องร้องลั่น เพราะมี แจ็ค (เฉลิมศักดิ์ แย้มคะมัง) นอนอยู่ใต้ผ้าห่ม แจ็คโผล่มาก็เจอจักรยันโครมตกเตียงไป น้าเพิ่มต้องรีบแนะนำว่า แจ็คเป็นญาติห่างๆ ที่ตนเอามาให้ช่วยงาน ทั้งทำงานบ้านที่นี่ และไปช่วยที่ร้านขายต้นไม้ด้วย โดยต่อหน้าแจ็ค ทั้งสองจะเป็น น้าเพิ่ม กับจักร ไม่หลุดว่าเป็นสยุมภูว์ ต่อหน้าใครทั้งนั้น
วัณณรีเห็นจักรก็กรี๊ดกร๊าดที่มีหนุ่มหล่อมาอยู่ข้างบ้าน ก็ชวนแววไปชะเง้อมอง ได้ยินเสียงของจักรกับแจ็คดังลอดมา มีทั้งพูดว่าเสียว มีทั้งพูดว่าดันเข้าไป มีทั้งพูดว่าเดี๋ยวโดนดูด แววต้องปิดหูวัณณรี ก่อนจะโวยด่าว่าทำอะไรบัดสีก็ให้เสียงเบาๆ กันหน่อย จักรกับแจ็คเดินถือหลอดไฟในมือออกมางงๆ กลายเป็นว่าจักรใช้แจ็คให้เปลี่ยนหลอดไฟ แต่แจ็คกลัว เพราะเสียวไฟดูด แววเลยหน้าแตกซะ

คืนนั้น ชลธิชาโทรหาแววคุยเรื่องที่แววยังตกงาน แววรีบหลบออกมาคุยที่สวนหย่อมในบริเวณบ้าน ชลธิชาที่ฐานะร่ำรวยกว่าเพื่อนในกลุ่มชวนให้แววมาช่วยงานในร้านกาแฟอีกคน แต่แววปฏิเสธ คิดว่าตนจะต้องต่อสู้ทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ จักรอยู่แถวริมรั้ว ได้ยินและได้เห็นความกลัดกลุ้มของแวว แววน้ำตาไหลออกมา ทำให้จักรได้เห็นว่า ภายนอกที่ทำตัวห้าว ข้างในแววก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง น้าเพิ่มแอบมองอยู่ตลอด ทักว่า อย่าบอกนะครับว่าคุณสยุมภูว์ชอบแวว สาวข้างบ้านคนนี้ สยุมภูว์ปฏิเสธ น้าเพิ่มยืนยันว่าไม่เคยเห็นคุณสยุมภูว์เป็นแบบนี้ แจ็คโผล่มาถามว่าใครคือสยุมภูว์ ทั้งสองเลยต้องตกลงกันว่า ต่อไปนี้ถ้าไม่ได้คุยกันเรื่องธุรกิจการงานจริงๆ ขอให้เรียกกันว่าจักร และน้าเพิ่มเท่านั้น

เอกรินทร์ที่ทราบว่าแววยังไม่มีงานทำ พาแววไปสมัครงานตำแหน่งพีอาร์ที่บริษัทตัวแทนรถยนต์ญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ที่นั่น แววแวะเข้าห้องน้ำ ส่องกระจกเช็คเสื้อผ้าหน้าผม แต่ดันเปิดก๊อกน้ำแรงจนกระเซ็นไปโดน ไลลา (โชติกา วงศ์วิลาศ) สาวสวยที่มารับงานเป็นพริตตี้ให้กับรถยนต์ยี่ห้อนี้ แววรีบขอโทษ แต่ไลลาไม่สนใจ ด่าเอาและยังเอามือบีบก๊อกน้ำให้ฉีดใส่แววเอาคืน จนกลายเป็นยื้อตบตีกัน เอกรินทร์ที่นั่งรออยู่แทบช็อคที่รปภ.หิ้วปีกทั้งสองที่ยังทะเลาะทุ่มเถียงกันออกมา เอกรินทร์ต้องแนะนำว่านี่คือ ไลลา น้องสาวของเขาที่แนะนำมาให้แววมาสมัครงานที่นี่ กลายเป็นว่าแววต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ทำเอาไลลาฝังใจไม่ชอบหน้าแววตั้งแต่แรกพบ แต่ถึงอย่างไร เมื่อฝ่ายบุคคลสัมภาษณ์และถูกใจแววมาก ถึงกับถามว่าจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่ และให้เตรียมตัวไว้

เอกรินทร์ขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งแววที่ร้านกาแฟ (ทั้งสองสวมหมวกกันน็อคปิดหน้าไว้) เริงใจเห็นหนุ่มเท่ขี่มอเตอร์ไซค์หรูมาจอดก็กรี๊ดกร๊าด เรียกชลธิชามาดู ยิ่งเมื่อถอดหมวกกันน็อคออก ก็ยิ่งดูหล่อถูกใจ แต่ทั้งสองก็ต้องเป็นงง ที่คนซ้อนท้ายถอดหมวกออกมาเป็นแวว เริงใจชอบเอกรินทร์และเข้าหาอย่างออกนอกหน้า ขณะที่ชลธิชาได้แต่แอบมอง ปิ๊งนะแต่ไม่แสดงออก แววบอกข่าวดีๆ เพื่อนที่ตนจะได้งานใหม่ แต่ยังดีใจกันไม่เสร็จ แววก็ต้องผิดหวัง เมื่อฝ่ายบุคคลที่สัมภาษณ์เธอโทรมาบอกว่ารับคนอื่นไปก่อนหน้าเธอแล้ว แววโวยว่าถ้ารับไปก่อนแล้วจะบอกให้ตนเตรียมตัวมาทำงานทำไม แววรู้สึกว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ

จักรเอาแต่ด้อมๆ มองๆ ชะเง้อไปที่รั้วบ้านข้างๆ จนแจ็คกับน้าเพิ่มทักอย่างรู้ทันว่า จักรคงแอบปิ๊งสาวข้างบ้าน เกิร์ล เน็กซ์ ดอร์ เข้าแน่ๆ แต่พอเห็นเอกรินทร์ขี่มอเตอร์ไซค์มาส่ง ตอนเบรกยังเห็นแววผวาสวมกอดเอกรินทร์เข้า จักรถึงกับจ๋อย เอกรินทร์เข้าไปส่งในบ้าน วัณณรีเห็นเอกรินทร์ก็อดจะกรี๊ดไม่ได้ ตามประสาเด็กสาว ยิ่งพอรู้ว่าเอกรินทร์เป็นนักข่าว ก็เนียนจะขอไปฝึกงาน เพราะตนเรียนนิเทศศาสตร์อยู่ แม้แต่มาลตีผู้เป็นแม่ ก็ถูกชะตาหนุ่มหล่อ สุภาพ นุ่มนวลรายนี้ และเมื่อแววออกมาส่ง
เอกรินทร์กลับไป จักรชะเง้อมองอยู่ เจอแววหันมาพอดี จักรหลบไม่ทัน ก็เลยกวนไป เรียกแววว่าสก๊อยซ้อนมอไซค์ ทั้งสองเลยกลายเป็นคู่กัดกันอีกยก

รุ่งขึ้น คำรพเข้ามาหาแววถึงในบ้าน เพื่อขอให้แววกลับไปทำงานกับตน แววกลัวแม่และน้องจะรู้ความจริงว่าตนออกจากงานแล้ว จึงลากแขนคำรพออกมาคุยที่ข้างรั้วบ้าน ซึ่งจักรรดน้ำต้นไม้อยู่ใกล้ๆ ตรงนั้นพอดี คำรพยื่นข้อเสนอว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ พร้อมเสนอว่าถ้าอยากมีรถมีคอนโดส่วนตัวก็คุยกันได้ แววถึงกับไล่คำรพออกไป โวยใส่ว่า คิดเหรอว่าเงินจะซื้อคนอย่างฉันได้ จักรฟังอยู่ ยิ่งประทับใจในตัวผู้หญิงคนนี้ คำรพยังบอกให้แววไปพิจารณา เพราะงานสมัยนี้ไม่ได้หาง่ายๆ เพิ่งไปสัมภาษณ์งานแล้วโดนโทรมาปฏิเสธไม่ใช่เหรอ แววงงว่าคำรพรู้ได้ไง ถามว่าคำรพเป็นผู้อยู่เบื้องหลังใช่มั้ย คำรพรับว่าใช่ และบอกให้แววคิดอีกครั้ง คนเราทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยเงิน ทุกอย่างวัดกันที่เงิน แววเลยย้ำอีกว่า ถ้าต้องรวยแล้วน่ารังเกียจอย่างคำรพ ขออดตายอย่างมีศักดิ์ศรีซะดีกว่า คำรพจากไป แววน้ำตาไหลพราก จักรเกาะรั้วคุยแสดงความเห็นใจ แววนึกว่าจักรจะซ้ำเติม ก็โวยประชดว่าอยากจะซ้ำเติมอะไรก็รีบๆ ซะ เพราะถ้ายังตกงานแบบนี้ อีกไม่กี่เดือนบ้านที่ขาดส่งมาร่วมปี ก็คงจะต้องโดนยึด และถึงเวลานั้น ฉันคงจะไม่มาเสนอหน้าให้นายคอยเยาะเย้ย ซ้ำเติมแล้ว

นุกูล (สมภพ เบญจาธิกุล) พ่อของชลธิชา ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของบริษัทยักษ์ใหญ่ เห็นลูกสาวนั่งจ้องจอไอแพดมองรูปถ่ายของเอกรินทร์ที่เริงใจถ่ายแล้วอัพโหลดลงเฟซบุ้คไว้ ก็อดแซวลูกสาวตนไม่ได้ ชลธิชาเองไม่ยอมรับ แต่ก็ปฏิเสธได้ไม่เนียน นุกูลให้คำแนะนำเรื่องธุรกิจร้านกาแฟ ชลธิชาอยากตกแต่งสวนเพิ่ม นุกูลเลยแนะนำให้ไปที่ร้านต้นไม้และจัดสวนที่ชื่อว่า Secret garden ซึ่งตนเพิ่งนั่งรถผ่านมา

จักรเห็นใจแวว ขนาดนอนไม่หลับ รุ่งขึ้นที่ร้านต้นไม้ เลยไปนั่งหาว นั่งสัปหงก เพิ่มพงษ์ต้องเตือนให้จักรรีบสวมบทบาทสยุมภูว์เพื่อบริหารทศพลกรุ๊ป ให้เดินหน้าต่อไปได้ ทั้งสองรู้ดีว่าการเข้ามาบริหารบริษัทก็เหมือนการเปิดว่าสยุมภูว์ยังมีชีวิตอยู่ และจะยิ่งทำให้สยุมภูว์ตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น จึงใช้วิธีใช้ห้องเล็กๆ ในร้านขายต้นไม้ ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการ โดยบริหารงานผ่านระบบคอมพิวเตอร์และเชื่อมต่อสัญญาณด้วยระบบ wifi และ 3G บางครั้งติดต่อสั่งงานด้วยระบบ face time แต่ก็จะจัดแสงให้เป็นซิลลูเอท และเห็นแค่ปากกับคางลงมาครึ่งตัว ไม่ให้ใครเห็นโฉมหน้าที่แท้จริง
ชลธิชา ชวนแวว กับเริงใจมาซื้อต้นไม้ด้วยกัน แววได้เจอจักร ก็ปะทะคารมกันอีก แววหมั่นไส้เลยใช้จักรให้ยกกระถางต้นไม้ขึ้นรถ แล้วเปลี่ยนใจแกล้งให้ยกกลับคืน เริงใจกับชลธิชาจะห้าม แต่แววบอกว่าไม่เป็นไร แจ็คฉุนแทน จะโวยใส่แวว จักรห้าม แล้วพูดว่า ดีแล้ว ผู้หญิงแกล้ง แปลว่าผู้หญิงรัก แววเจอคำนี้เลยหยุดแกล้งต่อ
ที่ร้านกาแฟ จักรเอาต้นไม้ไปส่ง ก็ยังต้องปะทะกับแววอีกรอบ ถึงขั้นเสื้อผ้าเลอะดินเลอะโคลนกันไป ทั้งสองทะเลาะกันจนงานจัดสวนไม่เดิน ชลธิชากับเริงใจต้องห้ามทัพ บอกให้จักรมาจัดสวนต่อวันหลัง เริงใจกับชลธิชาทักว่าแววเป็นอะไรนักหนากับผู้ชายคนนี้ เริงใจทักว่าจะว่าไปนายคนนี้รูปหล่อดูดีเกินกว่าจะเป็นเด็กร้านขายต้นไม้ แต่ก็ดูดีสู้เอกรินทร์ไม่ได้ ชลธิชาได้ยินก็จ๋อยไป เอกรินทร์มาถึงพอดี ชวนแววไปทานมื้อค่ำ แววไม่ทันตอบ เริงใจก็ออกหน้าตอบตกลง แววโวยว่าปรึกษาตนรึยัง ชลธิชาก็เสริมอีกว่าก็ไปด้วยกันเยอะๆ แหละสนุกดี

คืนนั้น จักรเห็นเอกรินทร์มาส่งแววที่บ้าน ก็ตั้งใจเดินออกมาถือกรรไกรตัดกิ่ง ทำเป็นเล็มต้นไม้ น้าเพิ่มกับแจ็คสังเกตเห็นก็ฟันธงว่าจักรต้องแอบชอบแววอย่างแน่นอน จักรเกาะรั้วพูดประชดแววทำนองว่าชอบคนรวย ไม่นั่งรถอาเสี่ย ก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์แพงๆ คันละเป็นแสน คงไม่สนใจนั่งรถกระบะเก่าๆ โทรมๆ ของตน แววย้อนว่าไม่ได้ขึ้นกับราคารถ แต่ขึ้นกับปากคนขับต่างหาก ปากเสียแบบจักรใครจะอยากอยู่ใกล้ จักรตวาดให้หยุด แล้วโดดข้ามรั้ว เงื้อง่ากรรไกรตัดกิ่งจะเขวี้ยงใส่ แววด่าสวนอย่างไม่กลัว จะขยับเข้าใส่ จักรตะคอกซ้ำให้หยุดอยู่นิ่งๆ เพราะมีงูอยู่ใกล้ๆ เท้าของแวว แววเหลือบมองแล้วกรี๊ดตัวแข็ง จักรปากรรไกรตัดกิ่งใส่ งูเลื้อยหนีไป ด้วยความตกใจแววโดดเข้ากอดจักรซะกลม
วัณณรีกับมาลตีออกมาเห็นเข้า แววรู้ตัวก็รีบผละออกมา มาลตีดุแววว่าเลือกหน่อย คนรวยๆ มีให้เลือกเยอะแยะ มาเลือกคนจัดสวน แกจะกินหญ้าหรือไง จักรน้อมรับว่าตนเองจนเงิน แต่ก็มีน้ำใจเสนอตัวว่าจะช่วยจัดสวนให้ สวนจะได้ไม่รกจนงูเข้ามาอีก วัณณรีเห็นว่าจักรเท่ดี ก็รีบตอบรับแทนให้ซะเลย

ขณะที่นิติภูมิรู้ว่าสยุมภูว์รอดตายจากการวางระเบิดรถไปได้ เขาจึงหาวิธีล่อให้สยุมภูว์ออกมาปรากฏตัวอีกครั้งด้วยการเอาสร้อยเพชรที่แม่ของสยุมภูว์เคยมอบให้แม่ของเขาออกประมูลในงานประมูลเครื่องเพชรของนุกูล โดยหวังว่าสยุมภูว์จะติดกับ งานนั้นแววไปเป็นนางแบบด้วยโดยเป็นผู้สวมสร้อยของแม่สยุมภูว์ สยุมภูว์ให้ วงศกร ไปเป็นผู้ประมูลในงาน นิติภูมิที่จับตาดูอยู่แล้วหลงกลคิดว่าวงศกรคือสยุมภูว์ เขาสั่งให้ศักดาและลูกน้องจับตาดูวงศกรไว้ โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วสยุมภูว์ก็มาปรากฏตัวในงานเช่นกัน ศักดาจึงตามจับผิดคน ในขณะที่นิติภุมิก็ได้แต่เจ็บใจที่ถูกสยุมภูว์ซ้อนแผนลอยนวลไปได้โดยที่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วสยุมภูว์คือใคร

หลังเลิกงาน คำรพตามตื๊อแวว พร่ำบอกว่าจะดูแลส่งเสียทั้งแววและครอบครัวอย่างดี คำรพฉุดแววให้ขึ้นรถของตน แต่จักรโดดมาช่วยไว้ โดยแลกหมัดกับคำรพคนละ 3-4 หมัด จนได้แผลกลับไปคนละเล็กละน้อย ไลลาได้เห็นจักรก็ยังพร่ำเพ้อ ว่าแมนเต็มร้อย ดูฮีโร่ถูกใจสุดๆ แถมยังเข้าไปปะทะคารมกับแวว ที่ต่างคนต่างไม่ยอมลงให้กัน จนเอกรินทร์ชักจะปวดหัวกับน้องสาวสุดเปรี้ยวคนนี้ ต้องดึงไลลา พากลับบ้านไป จักรจึงได้อาสาไปส่งแววด้วยรถกระบะสภาพบุโรทั่งของตน และเมื่อถึงบ้าน แววขอบคุณเขาด้วยการทำแผลให้ แต่พอจักรพูดกวนใส่ แววเลยหนักมือไปหน่อย จักรเลยเผลอไปดึงมือแววออก เพียงแค่จับมือ ทั้งสองก็รู้สึกหวั่นไหวกันเล็กๆ น้าเพิ่มกับแจ็คมั่นใจว่าเจ้านายของตน ท่าทางจะหลงเสน่ห์สาวข้างบ้านคนนี้เข้าแล้วอย่างแน่นอน

จักรจัดสวนให้บ้านแวว แววเห็นแนวของไม้พุ่มต้นเล็กๆ ดอกสีม่วงอ่อน แล้วชอบมาก ถามจักรว่าต้นอะไร? จักรถึงกับเหวอ บอกว่านี่ถามจริงๆ เหรอ? แววงง จักรบอกว่าคนอะไร ไม่รู้จักกระทั่งตัวเอง แววยิ่งงงหนัก จักรจึงบอกว่านี่คือต้น แววมยุรา ที่เขาตั้งใจจัดเพื่อแววโดยเฉพาะ แววยิ้มปลื้ม ถามกลับว่าทำไมนายถึงดีกับฉัน ทั้งที่ฉันด่านายประจำ จักรไม่ตอบ แววฉุกคิดได้ รีบถามเสียงเครียดว่า หรือนายคิดอะไรกับฉัน จักรอ้ำอึ้ง แต่ก็ทำเป็นเหน็บว่า แววหลงตัวเองไปหรือเปล่า ถึงคิดแบบนั้น แววเสนอเงินค่าจ้างให้ แต่จักรไม่รับ บอกว่า ต้นแววมยุราราคาถูกมาก เมล็ดซองละแค่สิบบาท คนจนๆ อย่างตนก็คงมีปัญญาจัดสวนให้ได้แค่นี้ แววบ่นจักรที่ชอบพูดแต่เรื่องจน เรื่องรวย เหมือนพวกมีปมด้อย เกิดเป็นลูกผู้ชาย ถ้ากลัวความจน ก็ต้องขยัน ไม่ใช่มาบ่นกระปอดกระแปดเป็นเด็กๆ แบบนี้ การที่จักรจัดสวนให้แววครั้งนี้ ทำให้ทั้งสองเริ่มเปิดใจที่จะคุยกันมากขึ้น ไม่เจอกันเป็นต้องปะทะคารมอย่างคู่กัดเหมือนที่แล้วมา

แววชอบใจต้นแววมยุรา จนถึงกับเอาเฟรมพร้อมขาตั้งมาเพ้นท์ภาพสีน้ำมัน จักรเห็นเข้าก็ทึ่ง เพิ่งได้รู้ว่าแววมีฝีมือทางด้านศิลปะ ยุให้แวววาดภาพให้เยอะๆ เพื่อจัดนิทรรศการแสดงภาพที่แกลเลอรี่ไปซะเลย แววนึกว่าจักรพูดเล่น แต่เมื่อรู้ว่าจักรให้กำลังใจและสนับสนุนตนจริงๆ ก็เริ่มรู้สึกดีกับจักรมากขึ้น ชลธิชาเห็นดีด้วย กับการแสดงภาพเขียนของแวว เพราะแกลเลอรี่ก็เป็นของนุกูล พ่อของเธอเอง เริงใจกับเอกรินทร์ก็อาสามาช่วย แต่แววก็หมดไฟที่จะวาดรูปต่อ เพราะได้รับการติดต่อจากธนาคารให้ส่งค่างวดผ่อนบ้านที่ค้างร่วมสี่แสนไม่งั้นอาจต้องโดนฟ้องยึดบ้าน ในขณะที่บ้านกำลังจะโดนยึดมาลตี กับวัณณรี กลับสั่งซื้อทีวีจอแบนและชุดโฮมเธียเตอร์มาร้องคาราโอเกะกันสนุกสนาน แววแทบร้องไห้ที่แม่และน้องยังไม่ทราบว่าเธอตกงาน ไม่มีรายได้มาร่วมเดือนแล้ว เงินก้อนสุดท้ายที่ได้จากงานประมูลก็หมดไปกับความฟุ้งเฟ้อของแม่กับน้องไป

แววเศร้า เอกรินทร์มาหา แววจะเอ่ยปากปรับทุกข์ แต่กลับเปลี่ยนใจ เพราะรู้สึกอยากปรับทุกข์กับจักรมากว่า และเมื่อจักรรู้เรื่องที่แววกำลังร้อนเงิน จักรมอบพวงกุญแจรูปดาวที่เป็นคริสตัลสวยใสให้กับแวว พร้อมบอกว่าอยากได้อะไรให้อธิษฐานกับดาวดวงนี้ แววเคืองว่าจักรเล่นไม่รู้เวล่ำเวลา คนยิ่งกำลังเศร้าๆ แต่จักรยืนยันว่าขอให้ลองก่อน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ จักรคะยั้นคะยอให้แววเอ่ยคำอธิษฐาน แววไม่เชื่อ แต่ก็ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด พูดๆ ไปว่าขอให้ได้งานเงินเดือนดีๆ เจ้านายไม่หัวงู และได้ใช้ความสามารถมากกว่าเอาหน้าตาเอาร่างกายเข้าไปแลก

จักรรีบไปปรึกษากับน้าเพิ่ม น้าเพิ่มเริ่มบ่นว่าจักรให้ความสนใจกับแววมากเกินกว่างานบริหารทศพลกรุ๊ป ติจักรว่าเรียงความสำคัญไม่ถูก แต่จักรเถียงว่าตนเรียงถูกแล้ว เรื่องของความรักเรื่องของหัวใจมันสำคัญน้อยกว่าธุรกิจตรงไหน ว่าแล้วก็สั่งให้น้าเพิ่ม ติดต่อนิติธร เพื่อไปทาบทามแววมาทำงานในตำแหน่งเลขาของสยุมภูว์ ทศพล เจ้าของและประธานกรรมการของทศพลกรุ๊ป โดยจะสั่งงานผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์

รุ่งขึ้น นิติธรมาพบแววถึงที่บ้าน โดยมีนิติภูมิแอบตามมาซุ่มสังเกตการณ์ และคลาดสายตากับจักรไปอย่างหวุดหวิด เพราะคิดว่าจะทำให้ได้พบตัวของสยุมภูว์ นิติธรทาบทามแววให้ทำงานกับสยุมภูว์ โดยอ้างว่าคุณสยุมภูว์เห็นแววจากงานประมูลเพชรแล้วถูกชะตา แววปฏิเสธ เพราะคิดว่าคงมาอีหรอบ เฒ่าหัวงู เหมือนนายคำรพ แต่นิติภูมิเลยหัวเราะก๊าก บอกว่าคิดเหรอว่าคุณสยุมภูว์จะให้เจอตัว เพราะจะว่าไปในเมืองไทยก็มีแค่ตนกับผู้ช่วยของคุณสยุมภูว์อีกคนเท่านั้น ที่เคยเห็นหน้าและรู้ว่าสยุมภูว์คือใคร และเมื่อพูดถึงเงินเดือนที่สูงถึงสามแสนบาท มาลตีกับวัณณรีก็แทบจะบีบคอให้แววตอบรับ แววยังไม่ไว้ใจ ไปปรึกษาชลธิชาและนุกูล นุกูลได้ยินชื่อสยุมภูว์ ทศพลก็รีบบอกให้แววตกลงได้เลย โอกาสแบบนี้ ไม่มีอีกแล้ว แต่เตือนว่าคนระดับสยุมภูว์ ถ้าจ้างใครเงินเดือนสูงๆ ก็คงจะหมายถึงภารกิจที่มอบหมายให้ต้องยาก และท้าทายความสามารถสุดๆ แน่ๆ ได้ยินแบบนี้ แววจึงรีบโอเค เพราะอยากพิสูจน์ความสามารถของเธอเองอยู่แล้ว นิติธรเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คบางเฉียบมาให้แววเริ่มต้นเปิดจอ เปิดเวปแคม กับฝ่ายสยุมภูว์ที่เป็นเงาดำมืด และเห็นแต่ตัว ไม่เห็นหน้า ภารกิจแรก ให้หาไอศกรีมให้ตนทานเย็นนี้ แววยิ้ม งานอะไรจะง่ายขนาดนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้ม เพราะสยุมภูว์บอกว่าเอาไอศกรีมรสหูฉลาม แววถึงกับต้องไปปรึกษาเพื่อนที่ร้านกาแฟ เริงใจเลยหาเรื่องให้ตามเอกรินทร์มาช่วย เอกรินทร์ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนแววไปย่านเยาวราช ไปคุกเข่าขอร้องเชฟภัตตาคารจีน ให้ลองปรุงให้ จนรีบนำไปส่งคุณนิติธรได้ทันเวลาเย็น

ทางด้านของจักรในคราบของสยุมภูว์ อยู่ในห้องบัญชาการในร้านต้นไม้กับน้าเพิ่ม หรือเพิ่มพงษ์ ทั้งสองขำสะใจที่ได้แกล้งทดสอบ แต่ก็ต้องช็อคที่แมสเซนเจอร์มาส่งของจากคุณนิติธร เปิดมา
เป็นไอศกรีมรสหูฉลามจริงๆ มีเส้นหูฉลามแทรกในเนื้อไอศกรีม แถมอร่อยอีกต่างหาก สยุมภูว์เลยสั่งแววผ่านคอมพิวเตอร์อีกว่ามื้อค่ำนี้เขาอยากกินข้าวผัด แววยิ้ม แต่นึกได้ก็เอะใจว่ามาไม้ไหนอีกถามไปว่าข้าวผัดอะไร ข้าวผัดปู ข้าวผัดหมู หรือข้าวผัดอเมริกัน สยุมภูว์ตอบกลับมาว่า เอาข้าวผัดไนจีเรีย เดือดร้อนแววต้องพึ่งเอกรินทร์อีกครั้ง

คืนนั้น แววกลับบ้านอย่างเหน็ดเหนื่อยหมดสภาพ จักรแกล้งถามว่างานใหม่เป็นยังไง แววเลยเม้าธ์ด่าสยุมภูว์ให้จักรฟัง เพราะไม่รู้ว่าสองคนนี้คือคนเดียวกัน แววบ่นอยากเห็นหน้าสยุมภูว์มากๆ เพราะมั่นใจว่าต้องโรคจิต หรือไม่ก็เพี้ยนแน่ๆ จักรสะดุ้งโหยง รีบแก้ให้ว่า มหาเศรษฐีคงเป็นแบบนี้
ไม่เหมือนคนจนๆ อย่างตน ที่กินอยู่แบบธรรมดาๆ อะไรก็ได้

ขณะที่นิติภูมิที่ตกหลุมรักแววตั้งแต่งานแฟชั่นโชว์ประมูลเครื่องเพชรและรู้ว่าแววมาเป็นเลขาของสยุมภูว์ ก็เริ่มทำตัวสนิทสนมถึงขนาดตามแววมาที่บ้าน แววแนะนำให้นิติภูมิรู้จักกับจักรในฐานะเพื่อนบ้าน โดยที่นิติภูมิไม่รู้ว่าจักรคือสยุมภูว์ที่เขากำลังตามหา สยุมภูว์เห็นว่านิติภูมิพยายามทำตัวสนิทสนมกับแววก็เลยวางแผนจะให้แววอยู่ห่างๆจากนิติภูมิไว้และอยากให้แววมีเวลาได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักอย่างแท้จริง (ทั้งการวาดภาพและการดูแลต้นไม้) ที่ไร่ทศพล จ.เชียงใหม่เพราะที่นั่นคือจุดเริ่มต้นของทศพลกรุ้ป สยุมภูว์ต้องการให้ทศพลกรุ้ปเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตของแวว

จักรจึงติดต่อแววอีกครั้งในฐานะสยุมภูว์เพื่อถามว่าแววยังอยากเป็นเลขาของเขาต่อไปหรือเปล่า แววตกปากรับคำ สยุมภูว์จึงบอกให้แววขึ้นไปทำงานที่ไร่ แววลังเลเพราะกลัวว่าไม่มีใครดูแลแม่และวัณที่อาจจะถูกคำรพล่อลวงไปเป็นเมียน้อย แต่มาลตีก็ทำให้แววมั่นใจว่าสามารถดูแลวัณได้ แววจึงตัดสินใจไปเชียงใหม่

ที่ไร่ทศพล สยุมภูว์วางแผนให้ นำพล () ผู้จัดการไร่สวมรอยเป็นสยุมภูว์และนัดแนะให้คนงานเข้าใจตรงกัน แววมีเพื่อนสนิทต่างวัยคนใหม่คือ ตงตง เด็กชายวัยแปดขวบ (ลูกชายของ หลินคนงานในไร่สยุมภูว์) ที่เกือบทำให้ความลับแตกว่านำพลไม่ใช่สยุมภูว์ตัวจริง แต่นำพลก็ทำให้แววเลิกสงสัยและยิ่งเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาคือสยุมภูว์

แววบอกเรื่องนี้กับนิติภูมิเมื่อเขาโทรมาหาเธอ ซึ่งนั่นทำให้นิติภูมิมั่นใจว่าจะได้เจอสยุมภูว์ตัวจริงเช่นกัน เขาจึงให้ศักดาขึ้นไปฆ่าสยุมภูว์ที่เชียงใหม่ ศักดาตามสะกดรอยนำพลเพื่อวางแผนฆ่า
ด้านไลลาก็ยังไม่ยอมเลิกตามจีบจักร จักรบอกไลลาตรงๆว่าเขาไม่ได้สนใจเธอ ไลลาเสียใจมาก เธอได้พบกับนิติภูมิ ทั้งสองทำความรู้จักกัน

แต่วันแรกที่ไปถึง ตงตงก็เกือบทำให้แววแขนหัก นำพลโทรบอกสยุมภูว์ ทำให้สยุมภูว์เป็นห่วงกลัวว่าแววจะเป็นอะไรมากเลยตามขึ้นไปที่ไร่โดยอ้างว่าบริษัททศพลกรุ้ปให้เขาขึ้นมาอบรมเกษตร ทำให้ทั้งสองได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะเดียวกับที่นิติภูมิก็ตามขึ้นมาที่เชียงใหม่เพื่อจัดการกับสยุมภูว์ด้วยตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าสยุมภูว์ตายจริงๆ

เช่นเดียวกับไลลาที่ใช้เงินซื้อความลับจากแจ็คที่เฝ้าร้านอยู่จนตามมาหาจักรที่ไร่ได้ แม้จักรจะไม่สนใจไลลา แต่แววก็อดหมั่นไส้จักรไม่ได้

จักรสนิทสนมกับตงตง โดยที่ตงตงไม่รู้ว่าเขาคือสยุมภูว์เจ้าของไร่

วันหนึ่งโรงเก็บชาถูกไฟไหม้เสียหายอย่างหนัก ทำให้ต้องเก็บใบชาเพิ่มแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะมีโรคระบาดทำลายต้นชาและไม่มีใครช่วยได้นอกจาก อาฟง ผู้ใหญ่บ้านที่เคยมีเรื่องกับสีหราชในอดีต แต่อาฟงไม่ยอมช่วยเพราะยังไม่เรื่องบาดหมางในอดีต แม้แววจะไปขอร้องอย่างไรอาฟงก็ไม่ยอม แต่ลูกสาวของอาฟงเห็นความตั้งใจของแววจึงยอมขโมยสูตรยากำจัดโรคมาให้ แต่กลับถูกงูกัดเสียก่อน โชคดีที่แววช่วยชีวิตไว้ได้ทัน อาฟงรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณแววจึงยอมกลับมาช่วยอีกครั้ง ทำให้สยุมภูว์เห็นความดีในตัวแววและรักเธอมากยิ่งขึ้น

เอกรินทร์ยังพยายามติดต่อกับแววแต่มักจะคลาดแคล้วกันไปเพราะแววเอาเวลาไปดูแลต้นไม้ ขณะที่เขาก็เป็นห่วงวัณที่ไม่ยอมกลับมาฝึกงานเพราะวัณกับมาลตีสนุกกับการปั่นหัวคำรพโดยไม่ได้สนใจคำเตือนของเอกรินทร์ เมื่อติดต่อกับแววได้เอกรินทร์จึงบอกเรื่องนี้กับแวว แววขอบใจเอกรินทร์ที่เป็นห่วงแม่กับน้องสาว เขาได้โอกาสถามแววตรงๆเรื่องความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา แววจึงบอกว่าเอกรินทร์เป็นได้แค่เพื่อน เอกรินทร์คิดว่าการที่เธอไว้ใจจักรเพราะเธอชอบจักร แต่แววปฏิเสธ เอกรินทร์จึงขอรอจนกว่าแววจะรักเขา ทำให้แววอึดอัดใจจนต้องปรึกษาจักร จักรปลอบใจแวว แววรู้สึกดีกับจักร

แววเล่าให้ชลธิชาฟังว่าเธอปฏิเสธเอกรินทร์ไปแล้ว ทำให้ชลธิชายิ่งสงสารเอกรินทร์ เธอจึงสารภาพความรู้สึกของเธอที่มีต่อเอกรินทร์ตรงๆ เอกรินทร์รู้สึกดีที่ชลธิชาชอบเขาแต่เขาก็ไม่อาจตัดใจจากแววได้ ชลธิชายินดีที่จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกับเอกรินทร์ ขณะที่แป้งร่ำก็อาศัยจังหวะที่เอกรินทร์กำลังเศร้าเข้ามาปลอบใจ(ด้วยความช่วยเหลือของไลลา) เธอใช้เสน่ห์ความเป็นหญิงจนเผลอใจมีอะไรกับเอกรินทร์ เอกรินทร์แสดงความรับผิดชอบต่อแป้งร่ำและพยายามทำตัวเหินห่างชลธิชา จนชลธิชารู้สึกว่าเอกรินทร์แปลกๆไป

ส่วนเพิ่มพงษ์ก็จับพิรุธนิติภูมิ แต่นิติภูมิก็ไม่เผลอหลุดพิรุธให้เพิ่มพงษ์สงสัยขณะที่นำพลโทรรายงานเพิ่มพงษ์ว่าถูกสะกดรอยตาม เพิ่มพงษ์จึงจ้างให้คนสะกดรอยซ้อนแผนจนรู้ว่าเป็นศักดาแต่ก็ไม่มีข้อมูลของศักดาที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงนิติภูมิได้ สยุมภูว์จึงไม่คล้อยตามเพิ่มพงษ์ว่านิติภูมิเป็นคนวางแผนฆ่าเขา

นิติภูมิตัดสินใจลงมือฆ่าสยุมภูว์ แต่แผนการก็พลาดไปหมดเพราะถูกเพิ่มพงษ์ซ้อนแผน ศักดาบาดเจ็บ ส่วนนิติภูมิก็รีบกลับกรุงเทพก่อนที่ใครจะสงสัย ยิ่งเมื่อรู้ว่านำพลเป็นเพียงผู้จัดการไร่ไม่ใช่สยุมภูว์ตัวจริงก็ยิ่งเจ็บใจ

ขณะเดียวกับที่เอกรินทร์ก็รู้ความจริงในที่สุดว่าพบว่าแป้งร่ำและไลลาร่วมมือกันหลอกตนเอง เขากลับไปพูดคุยกับชลธิชาและเริงใจเหมือนเดิม โดยไม่รู้ว่าแป้งร่ำไม่มีวันยอมเลิกราจากเอกรินทร์ง่ายๆ

แววกลับกรุงเทพฯเพราะคำสั่งของสยุมภูว์ ขณะเดียวกับที่เธอเริ่มสงสัยว่านำพลไม่ใช่สยุมภูว์ตัวจริง สยุมภูว์จึงจำต้องสารภาพว่าเขาต้องอยู่อย่างปิดบังตัวเองเพราะมีคนจ้องจะทำร้าย เขาจะเปิดเผยตัวเองก็ต่อเมื่อจับตัวคนร้ายได้แล้วเท่านั้น แววเข้าใจสถานการณ์ของสยุมภูว์แต่ก็ยังคาใจว่าสยุมภูว์กับจักรคือคนคนเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้

ส่วนสยุมภูว์กับเพิ่มพงษ์ก็เริ่มจับตมองนิติภูมิเพราะคิดว่านิติภูมิอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมด

วันหนึ่ง อาเหลียง นักธุรกิจคนสำคัญจากเมืองจีนติดต่อสยุมภูว์เพื่อต้องการร่วมทุนด้วย โดยในการเซ็นสัญญาร่วมทุนนี้สยุมภูว์ตัวจริงต้องมาเซ็นสัญญาด้วยตัวเอง เมื่อนิติภูมิรู้ก็คิดจะใช้โอกาสนี้เพื่อจัดการกับสยุมภูว์อีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าแผนการนี้จะพังเพราะแก๊งค์แพนด้าที่รับงานจากเมืองจีนมาจัดการอาเหลียงตัดหน้า ส่วนแววก็โดนร่างแหถูกจับไปด้วย สยุมภูว์จึงเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ได้สำเร็จ ในเหตุการณ์นั้นเองทำให้แววได้ใกล้ชิดกับสยุมภูว์มากที่สุดแต่เธอก็ยังไม่เห็นหน้าเขา

ด้านแป้งร่ำก็พยายามไปอธิบายเรื่องราวกับเอกรินทร์จนปรับความเข้าใจกันได้ เอกรินทร์ ชลธิชา ยอมรับให้แป้งร่ำมาเป็นเพื่อนอีกครั้ง ยกเว้นเริงใจที่ยังไม่เชื่อแป้งร่ำง่ายๆ

เพราะเห็นว่าสยุมภูว์ยอมเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือตัวเอง อาเหลียงจึงเซ็นสัญญาร่วมทุนกับทศพลกรุ้ป โดยมีการแลกข้อมูลสำคัญระหว่างกัน นิติภูมิรู้ว่านิติธรเป็นผู้เก็บกล่องข้อมูลนี้ไว้ที่ไหนจึงวางแผนจะชิงกล่องข้อมูลนั้นมาและประกาศขายในตลาดมืด(หวังจะทำให้ทศพลกรุ้ปเสียความน่าเชื่อถือ)ในงานปาร์ตี้หน้ากากที่สยุมภูว์จะจัดขึ้นเพื่อฉลองความสำเร็จในการร่วมทุนกัน

ในงานนั้นศักดาขึ้นไปขโมยกล่องเก็บข้อมูลมาได้แต่ไม่สามารถเปิดดูข้อมูลได้เพราะมีเพียงสยุมภูว์เท่านั้นที่รู้พาสเวิร์ด นิติภูมิรู้ก็เจ็บใจประกอบกับที่สยุมภูว์ประกาศขอแววแต่งงานกลางงานปาร์ตี้ก็ยิ่งแค้นใจหนักขึ้นไปอีก เขาจึงลักพาตัวแววไปเพราะรู้ว่าสยุมภูว์ต้องตามมาช่วยแววแน่ๆ เขาวางแผนว่าเมื่อรู้ว่าสยุมภูว์คือใครก็จะฆ่าสยุมภูว์ทิ้ง
สยุมภูว์ไปปรากฏตัวที่โกดังร้างเพื่อช่วยแวว ทำให้แววรู้ว่าแท้จริงแล้วสยุมภูว์กับจักรคือคนคนเดียวกันอย่างที่เธอสงสัย สยุมภูว์สารภาพกับแววว่าเขารักเธอและพยายามจะช่วยแววแต่กลับถูกศักดาทำร้าย นิติภูมิสั่งให้ศักดาปล่อยแววกลับบ้าน ส่วนเขาจะจัดการสยุมภูว์เอง สยุมภูว์จึงได้รู้ว่านิติภูมิเป็นคนบงการเรื่องทั้งหมด แต่ก่อนที่นิติภูมิจะฆ่าสยุมภูว์เขาใช้ถังแก๊สฟาดเข้าไปที่หัวของสยุมภูว์จนสลบไป ขณะเดียวกับที่นิติธรและเพิ่มพงษ์ตามมาช่วยได้ทัน นิติภูมิเอาตัวรอดด้วยการฆ่าศักดาเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตนเอง

สยุมภูว์สลบไปสามวันก่อนจะตื่นมาพบว่าตัวเองความจำเสื่อม จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไมได้ นิติภูมิสะใจมาก ขณะเดียวกับที่เขาก็ยังไม่เลิกขายกล่องข้อมูลที่ถูกถอดรหัสได้ในตลาดมืด โดยไม่รู้ว่ากำลังถูกนิติธร เพิ่มพงษ์ที่ร่วมมือกับตำรวจตามสะกดรอยอยู่

ด้านแป้งร่ำก็โกหกชลธิชาสำเร็จว่าตัวเองท้องกับเอกรินทร์แต่ขอไม่ให้ชลธิชาบอกเอกรินทร์เพราะกลัวว่าเอกรินทร์จะไม่ยอมรับ ชลธิชายอมเพราะเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน แต่เริงใจไม่เชื่อจนทำให้เพื่อนทั้งสองคนทะเลาะกัน เริงใจตัดสินใจบอกเอกรินทร์และต้องการให้เอกรินทร์พาแป้งร่ำไปพิสูจน์ว่าท้องจริงหรือไม่ แป้งร่ำถูกเอกรินทร์หลอกไปโรงพยาบาล จนแป้งร่ำต้องสารภาพออกมาเองว่าหลอกเอกรินทร์เพราะเธอรักเขามากจริงๆ จนเอกรินทร์ใจอ่อนเพราะก็แอบมีใจให้แป้งร่ำเช่นกัน
แววเห็นว่าที่สยุมภูว์ความจำเสื่อมก็เพราะไปช่วยเหลือเธอ เธอจึงดูแลสยุมภูว์เต็มที่แม้ว่าไลลาจะคอยมาขัดขวางก็ตาม แต่ก็มีเพิ่มพงษ์ที่มาคอยช่วยเหลือให้แววและสยุมภูว์ใกล้ชิดกันเพราะเชื่อว่าแววจะทำให้ความทรงจำของสยุมภูว์กลับมาอีกครั้ง

สยุมภูว์จึงได้ใกล้ชิดกับแวว ทั้งที่เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองคือจักร แต่แววก็ทำให้สยุมภูว์มีความสุขจนกลับมารักกันอีกครั้งและทำให้นิติภูมิต้องการกำจัดสยุมภูว์ทิ้ง

เขาลักพาตัวแววไป สยุมภูว์จึงตามไปช่วยแววพร้อมกับตำรวจ ที่ได้หลักฐานแน่นอนว่านิติภูมิคือตัวการของเรื่องราวทั้งหมด นิติธร ตามไปกล่อมไม่ให้นิติภูมิทำร้ายใครอีกแต่ก็ไม่สำเร็จ เขากระโดดสะพานหนีลงน้ำ สยุมภูว์ตามลงไปช่วยนิติภูมิแต่นิติภุมิจะทำให้สยุมภูว์ตายตกไปพร้อมกับเขา

แต่สุดท้ายนิติภูมิก็ไม่รอด เขาจมน้ำตายเสียเองท่ามกลางความเสียใจของนิติธร นิติธรจึงลาบวชให้ลูกชาย

หลังจากเหตุการณ์นั้นแววยิ่งแน่ใจว่าไม่ว่าเขาจะเป็นสยุมภูว์หรือจักร เขาคือคนที่เธอควรจะรัก เธอกลับไปที่ไร่ทศพลที่เชียงใหม่อีกครั้งตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับตงตง โดยไม่รู้ว่าสยุมภูว์ที่ยอมสละบริษัททศพลกรุ้ปให้นิติธรเป็นผู้ดูแลกำลังจะตามไปขอเธอแต่งงานที่นั่นอีกครั้งหนึ่ง

จบบริบูรณ์

รายชื่อนักแสดงในละครเรื่อง แววมยุรา

ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ รับบท สยุมภูว์ ทศพล หรือ จักร กังวานไกร ในละครเรื่อง แววมยุรา
มารี เบรินเนอร์ รับบท แววมยุรา ในละครเรื่อง แววมยุรา
ภพธร สุนทรญาณกิจ รับบท เอกรินทร์ ในละครเรื่อง แววมยุรา
นุชนันทน์ อรัณยะนาค รับบท ชลธิชา ในละครเรื่อง แววมยุรา
หรรษา จึงวิวัฒน์วงศ์ รับบท เริงใจ ในละครเรื่อง แววมยุรา
โชติกา วงศ์วิลาศ รับบท ไลลา ในละครเรื่อง แววมยุรา
จาตุรงค์ มกจ๊ก รับบท เพิ่มพงศ์ ในละครเรื่อง แววมยุรา
ปชาบดี ตัณฑปุตตะ รับบท วัณณรี ในละครเรื่อง แววมยุรา
พิศาล อัครเศรณี รับบท นิติธร ในละครเรื่อง แววมยุรา
อนุชิต สพันธุ์พงษ์ รับบท นิติภูมิ ในละครเรื่อง แววมยุรา
เกริก ชิลเลอร์ รับบท คำรพ ในละครเรื่อง แววมยุรา
สมภพ เบญจาธิกุล รับบท นุกูล ในละครเรื่อง แววมยุรา
นวลปรางค์ ตรีชิต รับบท มาลตี ในละครเรื่อง แววมยุรา
ปิยะ วิมุกตายน รับบท ศักดา ในละครเรื่อง แววมยุรา
เฉลิมศักดิ์ แย้มคะมัง รับบท แจ็ค ในละครเรื่อง แววมยุรา
ศรัณย์ธรณ์ ระสินานนท์ รับบท โรส ในละครเรื่อง แววมยุรา
ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด รับบท แป้งร่ำ ในละครเรื่อง แววมยุรา

ละครเรื่อง แววมยุรา บทประพันธ์ : พนมเทียน
ละครเรื่อง แววมยุรา บทโทรทัศน์ : ทองเอก และ วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ละครเรื่อง แววมยุรา กำกับการแสดง : ชานนท์ สัมฤทธิ์
ละครเรื่อง แววมยุรา แนวละคร : โรแมนติก
ละครเรื่อง แววมยุรา ผลิต : บริษัท เวฟมีเดีย เวิลด์ จำกัด โดย ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์
ละครเรื่อง แววมยุรา ออกอากาศ : ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3
ละครเรื่อง แววมยุรา ออกอากาศวันแรก : เริ่ม อาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th


- อ่านละครรายวันตอนล่าสุด